วิธีการแก้ปัญหาคิ้วบางมีมากมายหลากหลายวิธีครับ แต่ละวิธีก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เราต้องเลือกปลูกคิ้วถาวร บทความนี้มีคำตอบครับ ก่อนอื่นเรามาเริ่มจากวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นที่นิยมอย่างการสักคิ้วกันครับ

แน่นอนว่าไม่ว่าจะเป็นการเขียนคิ้วหรือสักคิ้วก็ไม่ได้เป็นการทำให้เรามีคิ้วขึ้นมาจริง ๆ แต่เป็นเพียงการที่เราลงสีเพื่อทำให้เราดูเหมือนมีคิ้วจริง ๆ แต่ไม่ได้ทำให้จำนวนเส้นขน (Hair) ของเรามีมากขึ้นครับ และที่สำคัญไม่ว่าการเขียนหรือสักคิ้วก็ไม่ได้เป็นการรักษาหรือแก้ปัญหาอย่างถาวร

ผลลัพธ์ของการสักคิ้ว

ไม่ว่าจะสักคิ้วในรูปแบบไหนก็เป็นเรื่องของการเขียนเส้น คิ้วไม่ได้มีมิติขึ้นมาจริง ๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ยังเป็นแนวราบไม่สามารถสร้างมิติที่พุ่งออกมาจากผิวได้จริง ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่ไม่มีการแต่งหน้าเข้ามาช่วย ยิ่งทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคิ้วที่สักจะค่อย ๆ จางลงไปเรื่อย ๆ จากสีดำหรือน้ำตาลเข้มก็จะค่อย ๆ จางลง จนเป็นสีออกเขียวทำให้ต้องมีการเขียนคิ้วเพิ่ม และถึงขั้นต้องไปสักใหม่ไปเรื่อย ๆ

ข้อดีของการสักคิ้วคือเป็นเรื่องง่ายที่จะทำ ใช้เวลาไม่นานมาก ราคาก็มีหลากหลายขึ้นอยู่กับฝีมือของช่างสัก และวัสดุอุปกรณ์เป็นสำคัญครับ

ผลลัพธ์ของการปลูกคิ้วถาวร

การปลูกคิ้ว จะทำให้เรามีคิ้วจริง ๆ ดังนั้นคิ้วย่อมมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะแต่งหน้าเขียนคิ้วหรือไม่ คิ้วของเราก็จะดูดีเป็นธรรมชาติเหมือนกับคิ้วดั้งเดิมของเรา สามารถปรับโครงสร้างหน้าได้ตามต้องการโดยการกันคิ้ว เหมือนกับคิ้วเดิมของเราเลยครับ ผลลัพธ์ในอนาคตก็จะอยู่แบบเดิมครับ ตั้งแต่สีของคิ้วก็จะเป็นสีธรรมชาติ สามารถย้อมได้ (หมอแนะนำหลังปลูกไปแล้ว 3-4 เดือนครับ) แต่ก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่าราคาของการปลูกคิ้วสูงกว่าการสักคิ้วครับ ในส่วนต่อไปเราจะพูดถึงว่าทำไมการปลูกคิ้วถึงมีราคาครับ

ความยากในการปลูกคิ้ว

การปลูกคิ้วถือเป็นหัตถการที่มีความยากไม่น้อยไปกว่าการปลูกผม แม้ว่าจำนวนกราฟต์ที่ใช้ปลูกจะน้อยกว่ามาก แต่ต้องใช้ความใจเย็น และความประณีตในการปลูกอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะว่า

ต้องใช้กราฟต์เดี่ยว – ขนคิ้วของคนเราเป็นขนเส้นเดี่ยว (Single Hair) เท่านั้น ฉะนั้นการปลูกคิ้วจะต้องใช้กราฟต์ผมที่มีเส้นผมเส้นเดียวมาปลูกเท่านั้น โดยที่การปลูกคิ้วจะใช้กราฟต์ผมประมาณ 300 – 600 กราฟต์ขึ้นกับความหนาที่ต้องการ หากว่าเราได้กราฟต์ผมที่มีผมเส้นเดียวมาจำนวนไม่มาก ก็จะต้องนำกราฟต์ผมที่มีผมหลายเส้นมาสับแยกให้ได้เป็นกราฟต์ผมที่มีผมเส้นเดียว หรือที่เรียกกันว่า Splitting Technique

ทิศทางของเส้นผมบริเวณหลังศีรษะ (Donor Area) – เพราะว่าเส้นผมของเรานั้นมีทั้งชี้ไปที่ทางขวาและทางซ้าย ซึ่งผมที่ชี้ไปทางซ้าย ก็จะสามารถปลูกได้แค่คิ้วข้างซ้าย ผมที่ชี้ไปทางขวาก็จะปลูกได้แค่คิ้วข้างขวา เพื่อไม่ให้ขนคิ้วชี้สวนกัน ดังนั้นต้องผ่านการคำนวณตั้งแต่ตอนถอนกราฟต์เลยทีเดียว

ทิศทางของขนคิ้วในแต่ละบริเวณต่างๆ – เช่น บริเวณหัวคิ้วจะมีขนคิ้วที่ชี้ขึ้น ในขณะที่หางคิ้วจะมีขนคิ้วที่วางเกือบหรือขนานกับพื้น เป็นต้น ทำให้การปลูกคิ้วจะต้องค่อย ๆ ปลูก ต้องคอยดูทิศทางให้เข้ากันกับขนคิ้วในแต่ละบริเวณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

คิ้วมีขนาดเล็ก – พื้นที่ในการปลูกคิ้วมีขนาดเล็ก ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ที่มีการสร้างแผลขนาดใหญ่อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ดังนั้นเราควรปลูกคิ้วด้วยเทคนิค DHI ที่ใช้อุปกรณ์เจาะกราฟต์และ DHI implanter ที่มีขนาดเล็กที่จะช่วยให้ทำการปลูกได้ง่ายขึ้น