Shock Loss คืออะไร?

สำหรับหลาย ๆ คนที่ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผม ผมเชื่อว่าต้องเคยพบกับคำว่า shock loss หรืออาการผมร่วงหลังปลูกผมแน่ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ และจะมีผลกับเราต่อไปหรือไม่ มาติดตามกันในบทความนี้ครับ

ผมร่วงหลังการปลูกผมแบ่งออกเป็น 2 บริเวณ

1.     ผมร่วงในบริเวณที่ปลูกผม

ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้า (ล้าน-เถิก) หรือด้านบน (หัวไข่ดาว) ในบริเวณนี้เราไม่ได้เรียกว่า shock loss เพราะผมบริเวณนี้จะร่วงอยู่แล้ว (อาจใช้คำว่า Graft Shedding) เมื่อเซลล์รากผมที่ทำการปลูก “ปลูกติดสนิท” กับบริเวณที่ผิวหนังของเราแล้วก็จะค่อย ๆ เริ่มวัฏจักรของผมใหม่ โดยปกติผมที่ปลูกนี้จะหลุดร่วงในช่วง 1-2 เดือนแรกภายหลังการปลูกผม แต่สำหรับท่านที่่ผมบาง แล้วปลูกด้วย ReCell ไม่ต้องกังวลปัญหานี้นะครับ

2.     ผมร่วงนอกบริเวณที่ปลูกผม

ส่วนนี้คือสิ่งที่เรียกว่า Shock Loss (หรือ Postsurgical Effluvium Of Preexisting Hair) อาจเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณที่มีการดึงผมออกมา (Donor Area) รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณที่หนังศีรษะถูกสร้างบาดแผลจากการปลูกผม สาเหตุนั้นก็เป็นเพราะว่าการสร้างบาดแผลจากการปลูกผมอาจไปสร้างความกระทบกระเทือนต่อเส้นเลือดเล็ก ๆ ใต้หนังศีรษะ ทำให้มีเลือดไปเลี้ยงยังพื้นที่ที่ไกลออกไปน้อยกว่าปกติ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล แต่ไม่ต้องกังวลเพราะผมเหล่านั้นจะค่อย ๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง โดยทั่วไปจะงอกใหม่พร้อม ๆ กับผมที่ทำการปลูกไป

โดยปกติหากรับการปลูกผมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะไม่เกิดปัญหาผมไม่งอกในบริเวณดังกล่าว แต่หากผมเหล่านี้ไม่ขึ้นใหม่ต้องรีบปรึกษาแพทย์ที่ทำการปลูกผมให้ว่าเหตุเกิดจากอะไร เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ทันเวลา

สำหรับคนไข้ที่ต้องการลดผลกระทบจากการเกิด Shock Loss สามารถเริ่มใช้ Minoxidil แบบทาที่บริเวณหนังศีรษะหลังการปลูกผมไปแล้ว 4-7 วันได้ครับ หรืออาจจะใช้ร่วมกับยาหรือวิตามินแบบกิน โดยควรจะปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อหาแนวทางการกินยาที่ถูกต้อง ไม่ควรไปซื้อยามากินด้วยตนเองเพราะว่าการกินยาจำพวก Minoxidil หรือ Finasteride นั้นอาจจะมีผลข้างเคียงที่เกิดจากการกินผิดขนาด หรือเลิกยาแบบทันทีที่จะทำให้ผลเสียเกิดขึ้นได้ครับ

อีกเรื่องหนึ่งที่หมอขอเน้นย้ำก็คือการกินอาหารให้ครับทั้ง 5 หมู่ และอย่าลืมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ไบโอติน (Biotin) ที่อยู่ในกลุ่มของวิตามินที่มีผลต่อเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นผมหรือผิวก็ตาม ไบโอตินยังสามารถเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างผมได้อีกด้วย แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยไบโอติน เช่น ไข่แดง หรือเนื้อสัตว์สีแดง (เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว) และอย่าลืมแร่ธาตุต่าง ๆ (Trace Element) หรือก็คือแร่ธาตุที่ไม่ต้องการจำนวนมากต่อวัน เช่น ธาตุเหล็ก (Iron) ซีลีเนียม (Selenium) สังกะสี (Zinc) เป็นต้น ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้ช่วยให้เซลล์ที่มีการแบ่งตัวบ่อย ๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ

Share the Post:

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save