ปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV อยู่ได้นานตราบเท่าที่ดูแลสุขภาพ และทานยาต้านไวรัสเป็นประจำ ดังนั้นผู้ป่วย HIV ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เป็นเหมือนโรคเรื้อรังประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ หรือผู้ป่วยทั่วไปก็ยังได้รับผลกระทบจากฮอรโมน DHT อันเป็นสาเหตุของศีรษะล้าน-เถิก ดังนั้น BEQ Clinic โดย นายแพทย์ ดนัย ธรรมภิบาล จึงออกแบบเทคนิคใหม่ เพื่อผู้ป่วยที่ติดเชื้อง่าย โดยเฉพาะ ก่อนอื่นเราทำความรู้จักโรค HIV กันก่อนนะครับ
HIV คืออะไร? แล้วต่างกับ AIDs อย่างไร?
ต้องขออธิบายว่า HIV คือเชื้อไวรัสที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัด และจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาอีกเลย ผู้ป่วยโรคนี้จึงไม่รู้ตัวว่าได้รับเชื้อไวรัสนี้เข้าไป เชื้อไวรัสเหล่านี้จะคอยทำลายเม็ดเลือดขาว(CD4)ของเราไปเรื่อยๆ เมื่อผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เป็นโรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายจนไม่สามารถต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ในที่สุด ดังนั้นโรคเอดส์ และ HIV ไม่ใช่โรคเดียวกันเพียงแต่มีความเกี่ยวเนื่องกันทางอาการเท่านั้น
การเตรียมความพร้อมสำหรับปลูกผม
ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน ได้มียาต้านไวรัสออกมาหลายขนาน หากผู้ติดเชื้อได้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี รวมถึงทานยาอย่างตรงเวลา HIV ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เปรียบเสมือนเพียงโรคเรื้อรังประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะว่า HIV ยังไม่มียารักษา แปลว่า เมื่อติดเชื้อแล้ว เลือดจะแสดงผลเป็น HIV+ อยู่เสมอ ทำให้เราต้องเช็คผ่านทางค่า VL และ CD4 แทน
Viral Load (VL) หมายถึง จำนวนไวรัส HIV ในกระแสเลือด ดังนั้นยิ่งน้อยก็จะยิ่งดี โดยควรมีค่าเป็น Undetectable หรือก็คือน้อยกว่า 20 ตัวต่อเลือด 1 CC
CD4 หมายถึง เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง(ในหลายๆประเภท) ซึ่งเป็นเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อติดเชื้อ HIV เชื้อ HIV จะใช้ CD4 เป็นฐานการผลิต แพร่กระจายเชื้อต่อไปอีก ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลง เพราะไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ ดังนั้นค่า CD4 ยิ่งมีมากก็ยิ่งดีครับ
CD4 นับเป็นจำนวนเซลล์ต่อเลือด cu mm. ค่าปกติอยู่ที่ประมาณ 538-922 (อ้างอิงตามสภากาชาดไทย) แต่เป็นการยากที่จะคำนวนความเปลี่ยนแปลงดังนั้นจึงมีค่า อีกค่าหนึ่งที่เรียกว่า %CD4 หรือก็คือ ในจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวทุกประเภทรวมกัน นับได้ว่ามี เซลล์ CD4 นี้อยู่กี่เปอร์เซ็นต์ ค่าปกติแล้ว (สภากาชาดไทย) ควรอยู่ระหว่าง 26-40 เมื่อตรวจเลือดกับคลินิก แพทย์จะช่วยวินิจฉัยว่าพร้อมสำหรับการปลูกผมหรือไม่
DHIv อีกระดับสำหรับการปลูกผม
DHIv เป็นเทคนนิคที่เราพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ สำหรับผู้ติดเชื้อไม่เพียงเฉพาะโรค HIV เท่านั้นแต่ยังคงรวมถึงโรคติดเชื้ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรค Virus ตับอักเสบ A,B ที่ง่ายต่อการติดเชื้อ เพราะว่าเทคนิคนี้จะลดเลือดที่ไหลออกมากกว่า เทคนิค DHI ปกติถึง 85% และใช้เวลาในการปลูกผมน้อยลงกว่าเดิมมากถึง 40% เพื่อลดโอกาศติดเชื้อ นี่คือนวัตรกรรมใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่ม ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องผลลัพธ์แน่นอน ที่มากไปกว่านั้นอุปกรณ์ทางแพทย์ที่เราจะใช้ปลูกผมทั้งหมดจะต้องทิ้งหลังปลูกผมเสร็จทันที ดังนั้นมั่นใจได้ว่าทุกชิ้นที่คนไข้ใช้จะเป็นอุปกรณ์ใหม่สำหรับเคสคนไข้เท่านั้น สำหรับผู้ป่วยที่ง่ายต่อการติดเชื้อแล้ว มั่นใจได้ว่า ด้วยการปลูกผมเทคนิค DHIv จะเป็นการปลูกผมที่เข้าใจ และเอาใจใส่ผู้ป่วยติดเชื้อโดนเฉพาะ ตั้งแต่ก่อนปลูกผม จนเสร็จสิ้นกระบวนการแน่นอน
ความพิเศษของการปลูกผมด้วยเทคนิค DHIv
สำหรับการปลูกผมด้วยเทคนิค DHIv ทาง BEQ Clinic เราได้ศึกษา และวางแผนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จนมั่นใจว่า เทคนิค DHIv สามารถตอบโจทย์ของคนไข้ ด้วย 4 ความพิเศษต่อไปนี้
เจาะกราฟต์ผมด้วยหัวเจาะพิเศษ
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อง่าย เราต้องยอมรับว่าการปลูกผมทำให้เกิดแผลหลักหลายพันแผล ดังนั้นเราจึงคำนึงถึงโอกาศติดเชื้อเป็นหลัก จึงพยายามเลือดที่คนไข้จะเสียไป และลดเวลาที่ใช้ในการทำหัตถการ ดังนั้นเราจึงเลือกใช้ หัวเจาะพิเศษขนาดเล็กที่สุด ที่เล็กกว่าหัวเจาะ DHI ทั่วไป 30% และเล็กกว่าหัวเจาะ FUE ถึง 1 เท่าตัว นอกจากนี้หัวเจาะยังต้องมีความคม และความบางเป็นพิเศษ เพื่อที่จะทำให้แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นน้อย ที่สำคัญยังปรับขนาดให้พอดีสำหรับกราฟต์ผมของท่าน ที่ BEQ Clinic เรามีหัวเจาะเฉพาะสำหรับกราฟต์ผมแบบ 1 เส้นจนไปถึงกราฟต์ผมแบบ 5 เส้น ทำให้แผลที่เกิดนั้นเล็กที่สุดที่จะสามารถทำได้
น้ำยาคงสภาพกราฟต์ สูตรH
น้ำยาแบบพิเศษ ที่มีความเข้มข้นกว่าสูตรปกติ 40% ทำให้นอกจากที่ช่วยยืดอายุกราฟต์ผมแล้ว ยังออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์รากผม ทำให้อัตราการอยู่รอดของกราฟต์มีมากขึ้น
ปลูกผมด้วย อุปกรณ์แบบใหม่
น้ำยาสมานแผล สูตรเฉพาะ
Recovery Solution เป็นน้ำยาแบบพิเศษ เพิ่มความไวในการสมานตัวของแผล กระตุ้นเซลล์ให้รักษาตัวเอง ทำให้แผลหายไวกว่าปกติ 1 เท่าตัว จึงเป็นอะไรที่เหมาะกับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังจากปลูกผมแล้วเป็นอย่างมากครับ
ดังนั้นสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อก็สามารถเบาใจได้ว่า ท่านสามารถรักษาอาการล้าน-เถิกได้แน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รบกวนแจ้งโรคประจำตัวของท่านให้ทีมแพทย์ เพื่อที่จะออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับตัวท่านที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง จะได้สบายใจหายห่วงครับ