ในปี 2021 นี้ หรือแม้กระทั่งช่วงปลายปีที่ผ่านมา คำถามที่หมอถูกถามทุก ๆ วันจากทุกช่องทางก็คือ DHI ต่างกับ FUE ยังไง หรือ DHI เป็นชื่อทางการตลาดจริงหรือ ในวันนี้หมอจะมาอธิบายให้ทุก ๆ คนเข้าใจกันอีกครั้งครับ ก่อนอื่นเรามาเริ่มพูดถึงการปลูกผมย้ายรากกันก่อนครับ
เนื่องจากว่าปัจจุบันในโลกเราไม่มีวิธีการใด หรือวัสดุไหนที่สามารถมาทดแทนผมจริง ๆ ของเราได้อย่างถาวรครับ ดังนั้นการปลูกผมย้ายรากก็คือ “การจัดสรรเส้นผมบนศีรษะของเราใหม่” โดยมีการนำผมจากบริเวณด้านหลังศีรษะที่ไม่ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ย้ายมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นล้านด้านบน เถิกด้านหน้า หรือแม้กระทั่งคิ้ว เครา หนวด จอน
เทคนิคปลูกผมแรกที่ได้รับการยอมรับ
เมื่อช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการคิดค้นวิธีการนำผมออกจากบริเวณดังกล่าวโดยการ “กรีดหนังศีรษะทั้งแผ่น” ก่อนที่จะนำหนังศีรษะแผ่นหนังไปตัดเพื่อแยกกราฟต์ผมออกจากหนังศีรษะ จากนั้นก็ใช้เข็มเจาะหนังศีรษะบริเวณด้านหน้าให้เป็นรูก่อนจะหยอดกราฟต์ผมที่เราได้เตรียมไว้ก่อนหน้า วิธีการนี้ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า FUT หรือ Follicular Unit Transplantation
ผลลัพธ์ก็ถือว่าต้องขึ้นกับฝีมือของแพทย์มากจริง ๆ ครับ เพราะเกิดแผลจำนวนมากโดยเฉพาะแผลกรีดหนังศีรษะด้านหลังที่ทำให้ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน ไม่พอยังทำให้เกิดแผลเป็นขนาดใหญ่ ผมที่ปลูกไปก็ถือว่าไม่แย่ครับมีความหนาแน่นขึ้นตามผมที่เราปลูกลงไป แต่ทิศทางของผมขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์ครับ ทำให้การปลูกผมเป็นที่นิยมในวงแคบเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหา
จากนั้นก็เกิดการพัฒนาต่อยอดเพื่อแก้ปัญหาแผลบริเวณด้านหลังที่มีขนาดใหญ่โดยการคิดค้นวิธีการใหม่มาดึงผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะแทน โดยใช้หัวเจาะชนิดพิเศษในการดึงผมของเราออกมาทีละกอ จากนั้นก็นำไปปักในบริเวณที่มีปัญหาเช่นเดียวกับการปลูกผมเทคนิค FUT แล้วก็ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่า FUE หรือ Follicular Unit Extraction แล้วยังมีการเปลี่ยนชื่อในภายหลังเป็น Follicular Unit Excision แน่นอนครับว่าปัญหาแผลเป็นก็ได้รับการแก้ไข
พัฒนาไปสู่เทคนิคที่ดีกว่า
ผ่านมาหลายปีที่ FUE ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่นิยมที่สุด จน FUT กลายเป็นตกกระแสไป แต่ผลลัพธ์ของ FUE และ FUT ก็ยังไม่น่าเป็นที่พอใจมากพอ ทั้งในเรื่องของความแน่น และแนวผม จนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ปัญหาเกิดจากตอนที่ปลูกผมลงไปด้วยการใช้การเจาะและการหยอดกราฟต์ผมไม่สามารถควบคุมความลึกและทิศทางได้ดีเพียงพอนั่นเอง จึงได้มีพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกผมที่มีชื่อว่า Implanter ซึ่งเจ้า Implanter นี้สามารถปลูกได้ชิดกว่า FUE ดั้งเดิมเพราะว่าขนาดเข็มของ Implanter มีขนาดเล็กกกว่า เข็มธรรมดาที่ใช้ในการปลูกนั่นเอง นอกจากนี้ Implanter ยังสามารถความคุมทิศทางและความลึกของการปลูกกราฟต์ผมได้อีกด้วยนั่นเอง ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายของการปลูกผมด้วยวิธีการนี้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จึงได้มีการตั้งชื่อใหม่เป็น DHI หรือ Direct Hair Implantation แต่ก็ยังมีบางคลินิกปลูกผม ที่เรียกเทคนิคนี้ว่า FUE อยู่เหมือนเดิมเพียงเติมคำว่า “ปลูกด้วย Implanter” ก็ตามแต่จะสะดวกครับ