ช่วงนี้มีเคสเข้ามาปรึกษากับหมอเยอะมาก ในเรื่องของแสงเลเซอร์ว่าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง และปัญหาหนังศีรษะได้อย่างไร? และยังมีคำถามเกี่ยวกับการใช้แสงในการรักษาระหว่าง LLLT กับ LED ต่างกันอย่างไร? ควรเลือกใช้อันไหนดี?
LLLT คืออะไร ?
LLLT หรือ Low-Level Laser Therapy เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง ในการดูแลรักษาปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะที่สะดวกสบาย ไม่เจ็บ ที่ช่วยรักษาปัญหาผมร่วงวิธีหนึ่งผ่านกลไกที่เรียกว่า Photobiomodulation คือ กระบวนการที่เลเซอร์ไปกระตุ้นเชลล์รากผมให้มีความแข็งแรงมากขึ้น เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาปัญหาผมร่วง
LED คืออะไร ?
LED (Light-Emitting Diode) หรือก็คือไดโอดเปล่งแสงธรรมดาๆ ซึ่งหลักการทำงานของ LED คือการให้แสงสว่าง โดยแสงที่ได้ออกมานั้นจะเป็นแสงที่ไม่มีความร้อน หรือมีความร้อนที่น้อยมากๆ จนใช้มือเปล่าจับได้ และแม้ว่าในความจริง LED จะมีการคลื่นออกมา แต่คลื่นที่ได้นั้นก็ไม่สามารถเข้าไปกระตุ้นรากผมได้
ที่ BEQ Hair Center มีการรักษาพิเศษจากการรักษาด้วยเลเซอร์สำหรับเส้นผมด้วยเทคโนโลยีฉายแสง LLLT 100% เครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง นวัตกรรมใหม่ที่สุด ซึ่งจะต่างจากการใช้ LLLT ที่ผสม LED ในการฉายแสงให้กับคนไข้ เนื่องจาก LED ไม่สามารถเลือกความยาวคลื่นเพื่อไปกระตุ้นเซลล์รากผมได้อย่างเจาะจง จึงอาจทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ดีหลังการฉายแสง แต่เทคโนโลยี LLLT 100% นั้น จะเป็นคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นเดียว และมีหลายสี ซึ่งสามารถส่งทะลุผ่านลงไปกระตุ้นเซลล์รากผม รวมถึงความเป็นเลเซอร์ที่สามารถลงลึกไปยังชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า
LLLT 100% เทคโนโลยีฉายแสงที่มีความหลากหลาย สามารถปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพปัญหาเส้นผม และหนังศีรษะของแต่ละบุคคล แสงแต่ละสีนั้น มีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป แสงที่ส่งทะลุไปยังเซลล์รากผมด้วยความยาวคลื่น และความถี่ มากกว่า 3 ชนิด มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สามารถปรับได้ว่าจะใช้แสงชนิดไหนเป็นหลัก โดยกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ของแสงที่ต้องการได้ ซึ่งในแต่ละคนจะปรับการใช้ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับปัญหาเส้นผม และหนังศีรษะของผู้เข้ารับบริการ
- แสงสีแดง 600-700 nm เพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ลดการหลั่งไขมันของต่อมไขมันและฟื้นฟูการเจริญเติบโตของเส้นผม
- แสงสีเหลือง 560-590 nm เพิ่มการขับของเสียทางระบบน้ำเหลือง เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดี
- แสงสีน้ำเงิน 380-500 nm ฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ลดการอักเสบของเส้นผมและหนังศีรษะ
- รังสีอินฟาเรด ช่วงคลื่นแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แสงจากรังสีอินฟาเรดจะเข้าไปช่วยส่งเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน กับแสงสีอื่นๆ
เครื่องฉายแสง LLLT ที่ BEQ Hair Center นอกจากจะมีการเลือกสีให้เหมาะกับแต่ละคนแล้วนั้น ยังสามารถผสมสีเพื่อเลือกความเข้มข้นของแสงเลเซอร์ ที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาเส้นผม และหนังศีรษะของคนไข้แต่ละคนได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลักการในการผสมสีนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน แสงที่ผสมได้ออกมาก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น การผสมแสงเป็นสีม่วง ที่เกิดจากการผสมกันระหว่าง สีน้ำเงินกับสีแดง เพื่อเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และยังสามารถช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย เป็นวิธีการที่จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์รากผม และลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เหมาะสมกับผู้ที่เพิ่งปลูกผมไปได้อย่างดี
นอกจากนี้การผสมสีของแสงเลเซอร์นั้นต้องอาศัยความชำนาญการของแพทย์สูง เพราะผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ที่เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาผม และเพื่อให้แสงเลเซอร์เจาะลึกเข้าไปกระตุ้นเซลล์รากผม และหนังศีรษะได้แม่นยำ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
ใครเหมาะที่จะต้องรักษาด้วย Hair Laser Program?
ผู้ที่ประสบปัญหาผมบางศีรษะล้านจากกรรมพันธ์ุและฮอร์โมนเพศชาย ภาวะเส้นผมระยะหลุดร่วง (telogen effuvium) ผมร่วงเป็นหย่อม (alopecia areata) หนังศีรษะมัน หรือแม้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะแต่อยากดูแลเส้นผมก็สามารถทำได้เช่นกัน
ผลลัพธ์ของการรักษาด้วย HAIR LASER Program จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ลดปัญหาผมร่วงไปพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ผมที่บางดูค่อย ๆ หนาขึ้นและมีสุขภาพดี ในกรณีเกิดการบาดเจ็บที่หนังศีรษะก็จะช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม ให้บางแผลหายไวขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความมันของหนังศีรษะ เป็นการดูแลรักษาปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะที่สะดวกสบาย ไม่เจ็บ ให้ผลการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพ สามารถทำได้ทุกๆ 1-2 สัปดาห์