จากประสบการณ์การแก้เคสหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เราพบว่าคนไข้โดยมากเลือกปลูกผมเพราะราคา โดยคิดว่าถ้าไม่สวยค่อยแก้ใหม่สิ เหมือนกับการทำศัลยกรรมประเภทอื่น ๆ ดังนั้นบทความนี้จะมาอธิบายกันว่าราคาของการแก้เคสปลูกผมมีอะไรกันบ้าง และวิธีคิดแบบนี้ผิดหรือไม่
ราคาของการปลูกผม
เรามาเริ่มกันที่เรื่องของราคาการปลูกผมไม่ว่าจะเป็นการปลูกในบริเวณที่ “ล้าน-เถิก” หรือปลูกแซมในบริเวณที่ “ผมบาง” หลาย ๆ คนโฟกัสไปที่ตัวเงินมากกว่าผลลัพธ์ครับ จนทำให้คนไข้ลืมไปว่าจริง ๆ แล้วเราจ่ายเงินเพื่อปลูกผม หรือเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาก ทั้งในแง่ของบุคลิกภาพและความมั่นใจ เรามาวิเคราะห์ถึงความแตกต่างของราคากันครับ
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ – เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะส่งผลโดยตรงกับอัตราความสำเร็จในการปลูกผม ทั้งในแง่ของความสวยงาม และในแง่ของอัตราการอยู่รอดของกราฟต์ เพราะการปลูกผมนั้นผสมผสานไปด้วยศิลปะ และความรู้ทางการแพทย์ หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปก็จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่สมบูรณ์ครับ
- เทคนิคที่เลือกใช้ – เทคนิคธรรมดาทั่วไปอย่าง FUE แบบดั้งเดิมที่ใช้แค่ Forceps กับทีมแพทย์ไม่กี่คน กับเทคนิคที่ถูกพัฒนาไปไกลอย่าง Long Hair DHI ที่ใช้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วม 10 ชีวิต ย่อมมีความแตกต่างในแง่ของผลลัพธ์แน่นอนครับ
- อุปกรณ์ – เป็นเรื่องแน่นอนครับ คุณภาพของอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ในการปลูกผม ย่อมมีความแตกต่างและส่งผลต่อผลลัพธ์ ยกตัวอย่างเช่นหัวเจาะทั่วไปกับหัวเจาะที่ออกแบบมาเพื่อการเจาะดึงกราฟต์ผม คุณภาพจะเทียบกันได้อย่างไรใช่ไหมครับ
อีก 1 ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ การปลูกผมครั้งแรกได้ผลลัพธ์ดีที่สุดครับ เพราะว่าอัตราการอยู่รอดของกราฟต์สูงที่สุด ไม่พอยังเป็นช่วงเวลาที่คนไข้มีผมด้านหลังที่เป็นทรัพยากรมากที่สุดอีกด้วยนะครับ
ปัญหาของการปลูกผมครั้งที่ 2
จริง ๆ การปลูกผมครั้งที่ 2 ไม่ได้ถือเป็นเรื่องแปลกนะครับหากการปลูกผมครั้งแรกสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี หลาย ๆ ครั้งที่คนไข้มีอาการค่อนข้างรุนแรงทำให้ต้องวางแผนปลูกผม 2 ครั้งเพื่อลดผลข้างเคียงของการนำกราฟต์ออกมาจำนวนมาก หรือบางครั้งคนไข้ต้องการเปลี่ยนกรอบหน้าใหม่เท่านั้น กรณีแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าห่วงนะครับ
แล้วกรณีที่น่าห่วงเป็นอย่างไร การปลูกผมที่ไม่สำเร็จจะมีลักษณะบาง ปลูกไม่ขึ้น มองเห็นหนังศีรษะชัดเจนอยู่ และที่สำคัญไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นใจหรือความสบายใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นการปลูกผมใหม่แบบนี้มักจะต้องมีการเปลี่ยนแพทย์นั่นเองครับ ส่วนสาเหตุหลักของการปลูกผมล้มเหลวเกิดจาก
- แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ เพราะการปลูกผมต้องคำนึงถึงผลลัพธ์เป็นสำคัญ กระบวนการปลูกผมเป็นกระบวนการที่ยาวนาน และควรจะมีผู้ช่วยหลาย ๆ คนเพื่อลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นต่าง ๆ แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่งมีประสิทธิภาพครับ
- เทคนิคที่ใช้ปลูก แน่นอนครับเทคนิคเก่า ๆ หรือว่าเทคนิคแบบดั้งเดิม เป็นสาเหตุของการปลุกผมไม่แน่นมาอย่างยาวนาน ดังนั้นความรู้และเทคนิคใหม่ ๆ จะสามารถทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นได้ครับ
มาพูดถึงความยากของการปลูกผมครั้งที่ 2 กันบ้างครับ ปัญหาใหญ่เลยก็คือทรัพยากรผมด้านหลังของเรามีจำนวนน้อยลงจากครั้งแรกครับ เนื่องจากการสูญเสียไปกับการปลูกผมที่ผิดพลาดนั่นเอง ดังนั้นความคาดหวังในเรื่องของจำนวนกราฟต์ก็จะต้องลดลงกว่าการปลูกครั้งแรก นอกจากนี้การปลูกผมเป็นการสร้างบาดแผลจำนวนมาก ดังนั้นย่อมต้องเกิดพังผืดขึ้นครับ ส่งผลให้เมื่อปลูกกราฟต์ผมใหม่ลงไปย่อมติดยากกว่าการปลูกผมครั้งแรกแน่นอนครับ ดังนั้นในการปลูกผมครั้งที่ 2 ต้องเลือกคลินิกปลูกผมให้ดีครับ