ผมร่วงมากแค่ไหนถึงควรพบแพทย์? รวมสาเหตุและวิธีการรักษา

การพบเส้นผมร่วงบนหมอน บนพื้น หรือในหวีเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่ต้องผมร่วงมากแค่ไหนถึงเริ่มเป็นปัญหา? วันนี้ BEQ Hair Center ขอพาไปดูสาเหตุของผมร่วง และการสังเกตความผิดปกติ ว่าเมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเส้นผมอื่นๆ 

สาเหตุของผมร่วง

โดยปกติ เส้นผมคนเราร่วงทุกวัน ประมาณ 50 – 100 เส้น เป็นปกติอยู่แล้ว มากน้อยแตกต่างกันจากหลายสาเหตุ ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอก ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยมีดังนี้

1. พันธุกรรม: ผมร่วงตามกรรมพันธุ์หรือที่เรียกว่าหัวล้าน (Androgenetic Alopecia) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยมักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นศีรษะล้านเช่นกัน

2. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น หลังคลอดบุตร ช่วงหมดประจำเดือน หรือมีปัญหาต่อมไทรอยด์ สามารถทำให้เกิดผมร่วงได้

3. ความเครียด: ภาวะเครียดเรื้อรังหรือเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรงสามารถทำให้เกิดผมร่วงชั่วคราวได้ ซึ่งเส้นผมจะหลุดร่วงหลังเกิดเหตุการณ์ประมาณ 2-3 เดือน และมักเป็นอาการชั่วคราว เมื่อร่างกายและจิตใจฟื้นตัว เส้นผมก็สามารถกลับมาขึ้นใหม่ได้ภายใน 6–9 เดือน

4. โรคบางชนิด: เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคผิวหนังบางชนิด โรคเอสแอลอี (SLE) หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน

5. ยาบางประเภท: การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาความดันโลหิตสูง อาจทำให้เกิดผมร่วงเป็นผลข้างเคียงได้

6. การขาดสารอาหาร: การขาดธาตุเหล็ก โปรตีน วิตามินดี หรือวิตามินบี12 อาจส่งผลให้ผมร่วงได้7. การดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม: การใช้ความร้อนสูง การดึงรั้งเส้นผมแรงเกินไป การทำทรีตเมนต์ที่รุนแรง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรงบ่อยเกินไป

10 วิธีดูแล ลดปัญหาผมร่วงด้วยตัวเอง

หากปัญหาผมร่วงอยู่ในระยะเริ่มต้น คุณก็สามารถดูแลและป้องกันด้วยวิธีเหล่านี้ 

1. ปรับอาหารการกิน: เพิ่มการรับประทานอาหารที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินอี วิตามินซี และกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

2. ลดความเครียด: หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการออกกำลังกายเบาๆ เพื่อลดผลกระทบต่อรากผม

3. ใช้แชมพูที่เหมาะสม: เลือกแชมพูที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารซัลเฟตหรือสารเคมีรุนแรง

4. หลีกเลี่ยงการจัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อนสูง: ลดการใช้เครื่องเป่าผม เครื่องหนีบผม หรืออุปกรณ์ความร้อนอื่นๆ หากจำเป็นต้องใช้ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเสมอ

5. นวดหนังศีรษะ: การนวดหนังศีรษะเบาๆ วันละ 5-10 นาที ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นรากผม

6. หลีกเลี่ยงการรัดผมแน่นเกินไป: ทรงผมที่ดึงรั้งมากเกินไป เช่น ผมเปีย ผมมัดแน่น อาจทำให้เกิดผมร่วงได้

7. พักการย้อมหรือดัดผม: สารเคมีในผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอและเพิ่มความเสี่ยงต่อการหลุดร่วง

8. ใช้น้ำมันธรรมชาติบำรุง: น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน หรือน้ำมันโรสแมรี่ มีคุณสมบัติช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้

9. ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วช่วยให้ร่างกายและหนังศีรษะได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ10. พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับไม่เพียงพออาจส่งผลต่อการเติบโตของเส้นผม ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

ถึงแม้ว่าการผมร่วงบางส่วนจะเป็นเรื่องปกติ แต่มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้วยเช่นกัน

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์

  • ผมร่วงอย่างรวดเร็ว: สังเกตเห็นว่าผมร่วงในปริมาณมากและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เกิดศีรษะล้านเป็นหย่อม ๆ: มีบริเวณที่ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ชัดเจน
  • มีอาการผิดปกติร่วมด้วย: เช่น คัน แดง เจ็บ หรือมีตุ่มที่หนังศีรษะ
  • ผมร่วงพร้อมกับมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่นๆ: เช่น อ่อนเพลียผิดปกติ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • มีประวัติโรคในครอบครัว: หากมีคนในครอบครัวที่มีปัญหาผมร่วงรุนแรงหรือศีรษะล้านเร็ว
  • ผมร่วงในเด็กหรือวัยรุ่น: การผมร่วงในวัยเด็กที่ไม่ใช่เรื่องปกติ ควรได้รับการตรวจวินิจฉัย
  • ดูแลด้วยตัวเองไม่ได้ผล: หากคุณได้ลองวิธีดูแลด้วยตัวเองมาระยะหนึ่งแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น

การรักษาอาการผมร่วง 

การรักษาด้วยยา

  • มิน็อกซิดิล (Minoxidil): ยาทาภายนอกที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเส้นผม 
  • ฟินาสเตอไรด์ (Finasteride): ยารับประทานที่ช่วยยับยั้งฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมร่วงตามกรรมพันธุ์

การรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์

  • การบำรุงด้วยสารต่างๆ : เช่น การฉีด PRP , TGFx หรืออื่นๆ 
  • กระตุ้นด้วยเครื่องมือ: เช่น ฉายเลเซอร์ LLLT 
  • การปลูกผม (Hair Transplantation): ย้ายรากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น ไปยังบริเวณที่ผมบาง

การรักษาตามสาเหตุ

  • การรักษาโรคพื้นฐาน: หากผมร่วงเกิดจากโรคอื่นๆ เช่น โรคไทรอยด์ หรือโรคทางภูมิคุ้มกัน ควรเข้ารับการรักษาโรคหลักที่ทำให้เกิดอาการผมร่วง
  • การปรับเปลี่ยนยา: หากผมร่วงเป็นผลข้างเคียงจากยาที่ใช้อยู่ แพทย์อาจพิจารณาปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นแทน

สรุป

ปัญหาผมร่วงสามารถส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต การที่เราได้สังเกตและรับรู้ปัญหา เพื่อพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อพบสัญญาณผิดปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การรักษาได้ผลดีที่สุด

      

Share the Post:

นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล

Education

  • แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (Doctor of Medicine, Prince of Songkhla University)
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (Master of Science in Anti – Aging and Regenerative Medicine, School of Anti-Aging and Regenerative Medicine, Mae Fah Luang University)

Certification

  • Certified American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS)
  • Certified International Board of Hair Restoration Surgery (IBHRS)
  • Certified American Board in Anti-Aging Medicine (A4M)
  • Certified in Clinical Nutrition Wellness (CNW), American Naturopathic
  • Certification Board (ANCB)
  • Certified in Chelation Therapy, Chelation Medical Association Thai (CMAT)
  • Certified in Anti-Aging Exercise and Wellness Medicine, Mae Fah Luang University)
  • Certified in Hair Transplant Program, Thai Global Health Center Bangkok
  • Certified in the Asian Association of Hair Restoration Surgeons (AAHRS)
  • Certified in The European Organization of Hair Restoration Professionals (FUE Europe)
  • Member of The World FUE Institute
  • Associate member in International Society of Hair restoration Surgery (ISHRS)
  • Key opinion leader (KOL) in Asia for NeoGraft® by Venus Concept USA
  • Lecturer in PAVICON MEDINESS ACADEMY (Hair Transplant Training Academy)
  • Speaker in “Lion-Hair Implanter One-Step Hair Restoration System Workshop” by Hans Biomed (2020)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save