การดูแลเส้นผมที่ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างของเส้นผมและปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพผม ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมบาง หรือผมเสีย ไม่ควรละเลยหรือปล่อยให้ปัญหาลุกลาม BEQ Hair Center ขอรวบรวมเรื่องสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับเส้นผม เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผม เพื่อนำไปสู่การดูแลอย่างถูกวิธี
โครงสร้างของเส้นผม
เส้นผมแต่ละเส้นประกอบด้วย 3 ชั้นหลัก ได้แก่:
1. เกล็ดผม (Cuticle)
เป็นเกราะป้องกันชั้นนอกสุดของผม ทำหน้าที่คล้ายเกล็ดปลา เรียงซ้อนกันเพื่อปกป้องผมจากความร้อน แสงแดด และสารเคมี หากเกล็ดผม เสียหายหรือหลุดลอก เส้นผมจะดูแห้งกร้านและชี้ฟู และขาดความเงางาม
2. เนื้อผม (Cortex)
เนื้อผม (Cortex) เป็นส่วนที่ประกอบไปด้วยโปรตีนเคราติน ที่เป็นส่วนสำคัญต่อความแข็งแรงและยืดหยุ่นโดยรวม และยังเป็นส่วนที่เก็บเมลานิที่กำหนดสีของเส้นผม ถ้าเนื้อผมอ่อนแอลง จะส่งผลให้ผมบางและขาดหลุดร่วงได้ง่าย
3. แกนกลาง (Medulla)
เป็นแกนกลางที่พบในผมหนาเท่านั้น บทบาทยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่ามีหน้าที่ส่งผ่านความชุ่มชื้นและความร้อนภายในเส้นใยผม
วงจรการเติบโตของเส้นผม
- ระยะที่ 1 ระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase) เป็นระยะเเรกสุด และเป็นระยะที่เส้นผมจะงอกใหม่ขึ้นมา ซึ่งในวัยเด็กจะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี เเต่เมื่ออายุมากร่างกายจะใข้ระยะเวลาการเจริญเติบโตสั้นลง
- ระยะที่ 2 ระยะพัก (Catagen Phase) เป็นระยะสิ้นสุดการเจริญเติบโตของผม ระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ โดยในระยะนี้เส้นผมจะแยกตัวออกมาจากหลอดเลือดที่มีหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์รากผม ทำให้เส้นผมค่อยๆ ขาดสารอาหาร เเละเตรียมตัวหลุดร่วงออกจากหนังศีรษะ
- ระยะที่ 3 ระยะหยุดการเจริญเติบโต (Telogen Phase) ถือว่าเป็นระยะสุดท้ายของวงจรชีวิตโดยต่อมรากผมจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจากหลอดเลือดที่มีหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์รากผมระยะหนึ่งเเล้ว ระยะนี้จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 เดือน โดยเส้นผมใหม่จะดันเส้นเก่าให้หลุดร่วงออกไป อย่างไรก็ตามหากมีอะไรมาขัดขวางการงอกใหม่ หรือเป็นปัจจัยที่เร่งให้เส้นผมเข้าสู่ระยะพักเร็วขึ้น ก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาผมร่วง ผมบาง และหนังศีรษะผิดปกติ ทำให้นำไปสู่ภาวะศีรษะล้าน-เถิกได้
2 สัญญาณที่บอกว่าผมเริ่มไม่แข็งแรง
1. ผมขาดหลุดร่วง
โดยปกติแล้ว คนเราจะสูญเสียเส้นผมประมาณ 50-100 เส้นต่อวัน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของวงจรการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ แต่หากคุณสังเกตเห็นว่ามีผมร่วงมากกว่าปกติ มีผมร่วงเป็นกระจุก หรือมีหนังศีรษะโล่งเป็นหย่อมๆ นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น ภาวะเครียด การขาดสารอาหาร ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ หรือภาวะผมร่วงแบบพันธุกรรม
นอกจากนี้ ผมที่หลุดร่วงง่ายแม้แต่เมื่อหวีหรือสระผมอย่างเบามือ อาจบ่งชี้ว่าเส้นผมของคุณกำลังอ่อนแอและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
2. ผมแห้งเสีย
เส้นผมที่ไม่แข็งแรงมักมีลักษณะแห้งกร้าน ขาดความเงางาม ผมแห้งเสียมักมีสาเหตุมาจากการขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารซัลเฟตและแอลกอฮอล์ การใช้ความร้อนมากเกินไป หรือการสัมผัสกับแสงแดดและมลภาวะโดยไม่มีการป้องกัน
นอกจากนี้ ผมที่แตกปลาย เป็นขุย หรือพันกันง่าย ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผมกำลังเสียหายและต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน

3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพเส้นผม
สุขภาพของเส้นผมได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก เช่น
1. พันธุกรรม
พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญต่อลักษณะของเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นความหนาแน่น ความหยาบละเอียด สี และแนวโน้มการเกิดปัญหาเช่น ผมร่วงแบบพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผมบางในผู้ชายและผู้หญิง หากในครอบครัวมีประวัติผมบางหรือผมร่วง คุณอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับปัญหาเดียวกัน แม้เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมได้ แต่การรู้ประวัติครอบครัวจะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมและหาวิธีชะลอหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที
2. ฮอร์โมน
ฮอร์โมนมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของเส้นผม ฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน มีส่วนสำคัญในการทำให้เกิดภาวะผมร่วงแบบพันธุกรรม โดยจะไปยับยั้งการงอกใหม่ของรากผม ทำให้รากผมฝ่อและหลุดร่วงในที่สุด
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงต่างๆ ของชีวิต เช่น การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร วัยหมดประจำเดือน หรือภาวะไทรอยด์ผิดปกติ ล้วนส่งผลต่อวงจรการโต หากสงสัยว่าปัญหาเส้นผมของคุณอาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเช็คระดับฮอร์โมนและรับการรักษาที่เหมาะสม
3. พฤติกรรมการดูแล
พฤติกรรมประจำวันในการดูแล มีผลอย่างมากต่อสุขภาพและความแข็งแรงของเส้นผม การใช้ความร้อนจากเครื่องเป่าผม เครื่องหนีบผม หรือเครื่องม้วนผมเป็นประจำโดยไม่มีการป้องกัน จะทำให้เส้นผมเสียความชุ่มชื้น แห้งเสีย และแตกปลายได้ง่าย
รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมีรุนแรง การย้อมผม การดัดผม หรือการยืดผมบ่อยๆ ล้วนทำให้โครงสร้างของผมเสียหาย แม้กระทั่งการรวบผมแน่นเกินไป หรือการใช้หนังยางที่มีโลหะ ก็สามารถทำให้ผมขาดหักและร่วงได้

3 วิธีดูแลเส้นผมให้แข็งแรง
การมีผมที่สวยงามและแข็งแรงไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณใส่ใจในการดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ
1. อาหาร
อาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผม การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนจะช่วยให้รากผมได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อเติบโต เช่น
- โปรตีน: เส้นผมประกอบด้วยโปรตีนเคราตินเป็นหลัก ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ไข่ ถั่ว และเต้าหู้ จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต
- วิตามินและแร่ธาตุ: วิตามิน A, C, D, E และวิตามินบีรวม โดยเฉพาะไบโอติน (บี7) มีความสำคัญต่อสุขภาพของเส้นผม นอกจากนี้ แร่ธาตุอย่างเหล็ก สังกะสี และซีลีเนียม ก็มีส่วนช่วยในการงอกของเส้นใยผมเช่นกัน
- กรดไขมันโอเมก้า-3: พบมากในปลาทะเลน้ำลึก น้ำมันมะกอก และถั่วต่างๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ
และที่สำคัญ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผมชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกด้วย
2. การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
- แชมพูและครีมนวดผม: เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากซัลเฟต พาราเบน และแอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ สำหรับผมแห้งเสีย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ หรือเคราติน ส่วนผมมัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมัน
- ทรีทเมนต์: การใช้ทรีทเมนต์บำรุงผมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่เสียจากความร้อนและสารเคมี ควรเลือกทรีทเมนต์ที่มีส่วนผสมของเคราตินหรือโปรตีน สำหรับผมที่เสียหายมาก
3. อื่นๆ
- การนวดหนังศีรษะ: การนวดหนังศีรษะเบาๆ เป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น และช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง
- การทำความสะอาด: หนังศีรษะที่สะอาดปราศจากน้ำมันส่วนเกิน รังแค หรือสิ่งตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม จะช่วยให้รูขุมขนหายใจได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดี
- การใช้เซรั่มบำรุงหนังศีรษะ: ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะโดยเฉพาะ มักมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพหนังศีรษะ เช่น สารสกัดจากชาเขียว โสม หรือน้ำมันหอมระเหยต่างๆ
ถ้าเส้นผมเริ่มบางลงหรือหลุดร่วงผิดปกติควรทำอย่างไร?
แต่หากคุณสังเกตเห็นว่าเส้นผมของคุณเริ่มบางลงหรือหลุดร่วงมากกว่าปกติ ไม่ควรละเลยเพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพผมที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองได้
ที่ BEQ Hair Center พร้อมให้คำปรึกษา วิเคราะห์ปัญหาโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ สามารถออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณโดยเฉพาะ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจที่สุด
ติดต่อเราได้ที่
โทรศัพท์: 094-441-4965
Line: https://lin.ee/lG7o7MN
E-mail: Marketing@beqhaircenter.com
BEQ Hair Center ชั้น 3 อาคารซีพี ทาวเวอร์ (สีลม),ถนนสีลม, บางรัก, กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาทำการ: จันทร์ – อาทิตย์ 10.00 – 19.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)