ปลูกผมผู้ชาย ทางออกสำหรับผมบาง หัวล้าน ที่ได้ผลจริง

ผมบางหรือหัวล้านอาจไม่ใช่แค่ปัญหาด้านภาพลักษณ์ แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ชายจำนวนไม่น้อย ปัจจุบันการ “ปลูกผมผู้ชาย” ได้กลายเป็นทางออกที่หลายคนเลือก เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและถาวร BEQ Hair Center จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาผมบางของผู้ชาย วิธีปลูกผมถาวร รวมถึงสิ่งที่ควรรู้ก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

2 ปัญหาผมผู้ชายที่พบบ่อย

ศีรษะล้านหรือผมบางไม่ใช่เรื่องไกลตัวของผู้ชายยุคนี้ โดยเฉพาะในช่วงอายุ 25 ปีขึ้นไป หลายคนเริ่มสังเกตเห็นแนวผมร่น ผมบาง หรือหัวล้านที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และมีหลายรูปแบบ เช่น

1. หัวล้านจากกรรมพันธุ์

ภาวะผมร่วงแบบพันธุกรรม หรือที่เรียกว่า Androgenetic Alopecia เป็นสาเหตุหลักของการเกิดหัวล้านในผู้ชาย โดยมักเกิดจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศชาย (DHT) ที่มีผลทำให้รูขุมขนฝ่อลง และเส้นผมหลุดร่วงในที่สุด

ลักษณะที่พบได้บ่อยคือ:

  • ผมร่วงเป็นรูปตัว M บริเวณหน้าผาก
  • ผมบางบริเวณกลางศีรษะ
  • หัวล้านวงกว้างบริเวณกระหม่อม

ปัญหานี้มักเริ่มตั้งแต่อายุ 20-30 ปี และค่อยๆ แย่ลงเมื่ออายุมากขึ้น หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นหัวล้าน โอกาสที่คุณจะเผชิญกับปัญหานี้ก็ยิ่งมีสูง การปลูกผมจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ให้ผลถาวรและเห็นผลชัดเจน

2. ผมบางรอบหน้าผาก

ผมบางบริเวณรอบหน้าผากเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยในผู้ชาย ลักษณะที่พบคือ เส้นผมบริเวณหน้าผากและขมับเริ่มบางลง จนเห็นหนังศีรษะชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูกว้างและมีอายุมากขึ้น

สาเหตุหลักๆ ได้แก่:

  • พันธุกรรม
  • ความเครียด
  • การขาดสารอาหาร
  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม

แม้จะมีวิธีชะลอการบางของเส้นผมได้ เช่น การใช้ยา แต่สำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง การปลูกผมจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและถาวรกว่า ช่วยเติมเต็มบริเวณที่ผมบางให้ดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติ

ปลูกผมผู้ชาย

3 วิธีปลูกผมถาวรสำหรับผู้ชาย

การปลูกผมด้วยวิธีย้ายรากผม หรือ Hair Transplantation เป็นการนำรากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น (มักเป็นบริเวณท้ายทอย) มาปลูกลงบนพื้นที่ที่ผมบางหรือล้าน โดยปัจจุบันมีเทคนิคที่นิยมใช้ 2 วิธีหลัก คือ

  1. FUT (Follicular Unit Transplantation): เป็นการตัดแผ่นหนังที่มีรากผมจากด้านหลังศีรษะ แล้วแยกย้ายรากผมมาปลูกบริเวณที่ต้องการ ข้อดีคือสามารถย้ายรากผมได้จำนวนมากในครั้งเดียว แต่จะมีแผลเป็นเส้นยาวบริเวณต้นขอ เป็นเทคนิคที่ล้าสมัยและไม่ค่อยมีการใช้แล้วในปัจจุบัน
  2. FUE (Follicular Unit Extraction): เป็นการเก็บรากผมทีละหน่วย แล้วนำมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ ข้อดีคือไม่เกิดแผลเป็นชัดเจน ฟื้นตัวเร็ว แต่อาจใช้เวลานานกว่าและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
  3. DHI (Direct Hair Implantation): เป็นเทคนิคที่ต่อยอดจาก FUE แต่มีความพิเศษที่เข้ามาปรับปรุงข้อเสียของการที่จะต้องเจาะและปักทีละขั้นตอน เปลี่ยนมาใช้ DHI Implanter ในการเจาะ-ปัก-ปลูก ในขั้นตอนเดียว ช่วยลดข้อผิดพลาด และสามารถควบคุมแนวเส้นผมได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ระยะเวลาการเห็นผล

การปลูกผมไม่ใช่การเห็นผลลัพธ์ในทันที แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา ผู้ที่เข้ารับการปลูกผมควรทราบถึงระยะเวลาและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น:

  • เดือนที่ 1: หลังการปลูกผม เส้นผมที่ปลูกใหม่จะร่วงออก นี่เป็นเรื่องปกติที่เรียกว่า “ช่วง Shock Loss” ไม่ต้องตกใจ
  • เดือนที่ 2-3: จะเริ่มเห็นผมใหม่งอกออกมาจากรากที่ปลูก แต่ยังเป็นเส้นเล็กและบางมาก
  • เดือนที่ 4-6: เส้นผมเริ่มหนาขึ้นและหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • เดือนที่ 8-10: สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เส้นผมเริ่มหนาแน่นและยาวขึ้น
  • เดือนที่ 12-18: ผลลัพธ์สุดท้ายจะปรากฏชัดเจน เส้นผมมีความหนาแน่น แข็งแรง และเป็นธรรมชาติ

การเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีขึ้นไป ดังนั้นความอดทนคือสิ่งสำคัญ ระหว่างนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ปลูกผมผู้ชาย

ข้อควรรู้ก่อนปลูกผม

การเตรียมตัว

ก่อนเข้ารับการปลูกผม มีสิ่งที่ควรเตรียมตัวและปฏิบัติตาม เพื่อให้การปลูกผมเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดี:

1. การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพเส้นผม บริเวณที่จะปลูก และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวคุณ

2. หยุดยาและสารบางชนิด:

  • หยุดยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • แจ้งแพทย์หากรับประทานยาประจำ

3. การเตรียมร่างกาย:

  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันปลูกผม
  • ทานอาหารเช้าเบาๆ ในวันที่ทำการปลูกผม (ยกเว้นแพทย์แนะนำให้งดอาหาร)
  • สระผมให้สะอาดในคืนก่อนหรือเช้าวันที่ปลูกผม
  • สวมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่คับ และถอดได้ง่าย โดยไม่ต้องดึงผ่านศีรษะ

4. การวางแผนการเดินทาง: ควรมีผู้มาส่งและรับ เนื่องจากหลังการปลูกผม คุณอาจไม่สะดวกในการขับรถเอง

5. ความคาดหวังที่เหมาะสม: พูดคุยกับแพทย์ถึงผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างสมเหตุสมผล เนื่องจากผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของรากผม ความหนาแน่นที่มีอยู่เดิม และบริเวณที่ต้องการปลูก

การพักฟื้น

การดูแลตัวเองหลังการปลูกผมเป็นสิ่งสำคัญมากต่อความสำเร็จของการปลูกผม ช่วงเวลาพักฟื้นมีข้อควรปฏิบัติดังนี้:

ช่วง 1-3 วันแรก:

  • นอนหนุนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเกาบริเวณที่ปลูกผม
  • ทานยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
  • ประคบเย็นบริเวณหน้าผากเพื่อลดอาการบวม (ระวังไม่ให้โดนบริเวณที่ปลูกผม)

ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก:

  • สระผมตามวิธีที่แพทย์แนะนำ ด้วยน้ำอุ่นและแชมพูอ่อนๆ
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • สวมหมวกหรือใช้ร่มเมื่อต้องออกแดด
  • หลีกเลี่ยงการสระผมแรงๆ หรือใช้เครื่องเป่าผมที่ร้อนเกินไป

ช่วง 1-3 เดือนแรก:

  • ยังคงระมัดระวังในการหวีผม และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีสารเคมีรุนแรง
  • อาจพบการร่วงของเส้นผมที่ปลูก (Shock Loss) ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล

อาการที่อาจพบหลังการปลูกผม เช่น บวม คัน มีเลือดซึม หรือเจ็บบริเวณที่ปลูกและเก็บรากผม เป็นเรื่องปกติ และจะค่อยๆ หายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ เจ็บมาก หรือมีหนองบริเวณแผล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ปลูกผม แพงไหม?

คำถามเรื่องค่าใช้จ่ายมักเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัย ค่าปลูกผมมีความแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น

  1. จำนวนกราฟต์: ราคามักคิดตามจำนวนกราฟต์ (หน่วยของรากผม) ที่ปลูก ยิ่งจำนวนมาก ราคาก็ยิ่งสูง
  2. เทคนิคที่ใช้: FUE มักมีราคาสูงกว่า FUT
  3. ประสบการณ์ของแพทย์: คลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำราญการ มีใบรับรองในระดับสากลมักมีค่าบริการสูงกว่า แต่ก็ช่วยให้มั่นใจในฝีมือได้มากกว่า
  4. อุปกรณ์และเทคโนโลยี: คลินิกที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยมักมีราคาสูงกว่า

สรุป

การปลูกผมถือเป็นทางออกที่มีประสิทธิภาพและถาวรสำหรับผู้ชายที่ประสบปัญหาผมบางหรือหัวล้าน ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่นๆ เทคโนโลยีการปลูกผมในปัจจุบันพัฒนาไปอย่างมาก สามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ยาวนาน แม้จะต้องใช้เวลาและความอดทนในการเห็นผลลัพธ์สมบูรณ์ แต่สิ่งที่ได้รับคุ้มค่ากับการรอคอย

ปลูกผมผู้ชาย เรียกคืนความมั่นใจที่  BEQ Hair Center

ที่ BEQ Hair Center เราเข้าใจดีว่าปัญหาผมบางและหัวล้านส่งผลต่อความมั่นใจของคุณมากแค่ไหนด้วยทีมแพทย์ชำนาญการมากประสบการณ์ รวมถึงเทคโนโลยีการปลูกผมที่ทันสมัย และการดูแลแบบแบบครบวงจร เราพร้อมช่วยให้คุณเรียกคืนความมั่นใจและกลับมามีเส้นผมที่หนาแน่นเป็นธรรมชาติอีกครั้ง

ติดต่อเราได้ที่:

โทรศัพท์: 094-441-4965

Line: https://line.me/ti/p/@dr.danai_hairtrans 

E-mail: Marketing@beqhaircenter.com

BEQ Hair Center ชั้น 3 อาคารซีพี ทาวเวอร์ (สีลม),ถนนสีลม, บางรัก, กรุงเทพมหานคร 10500

เวลาทำการ: จันทร์ – อาทิตย์ 10.00 – 19.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)

Share the Post:

นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล

Education

  • แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (Doctor of Medicine, Prince of Songkhla University)
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (Master of Science in Anti – Aging and Regenerative Medicine, School of Anti-Aging and Regenerative Medicine, Mae Fah Luang University)

Certification

  • Certified American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS)
  • Certified International Board of Hair Restoration Surgery (IBHRS)
  • Certified American Board in Anti-Aging Medicine (A4M)
  • Certified in Clinical Nutrition Wellness (CNW), American Naturopathic
  • Certification Board (ANCB)
  • Certified in Chelation Therapy, Chelation Medical Association Thai (CMAT)
  • Certified in Anti-Aging Exercise and Wellness Medicine, Mae Fah Luang University)
  • Certified in Hair Transplant Program, Thai Global Health Center Bangkok
  • Certified in the Asian Association of Hair Restoration Surgeons (AAHRS)
  • Certified in The European Organization of Hair Restoration Professionals (FUE Europe)
  • Member of The World FUE Institute
  • Associate member in International Society of Hair restoration Surgery (ISHRS)
  • Key opinion leader (KOL) in Asia for NeoGraft® by Venus Concept USA
  • Lecturer in PAVICON MEDINESS ACADEMY (Hair Transplant Training Academy)
  • Speaker in “Lion-Hair Implanter One-Step Hair Restoration System Workshop” by Hans Biomed (2020)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ครับ
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

Save