ผมร่วง ผมบาง หรือเส้นผมไม่มีน้ำหนัก อาจไม่ใช่แค่ปัญหาภายนอก แต่มีสาเหตุจากภายในร่างกายอีกด้วย หนึ่งในทางออกที่หลายคนมองข้ามคือ “วิตามินบำรุงผม” ที่ช่วยเติมสารอาหารที่จำเป็น เสริมความแข็งแรงของรากผม และกระตุ้นการงอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไม วิตามิน ถึงสำคัญต่อสุขภาพผม
วิตามินทำหน้าที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย โดยเฉพาะในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ รวมถึงเซลล์ที่อยู่ในรูขุมขนและหนังศีรษะ เมื่อร่างกายได้รับวิตามินครบถ้วน จะส่งผลให้เส้นผมได้รับสารอาหารที่จำเป็น ทำให้ผมแข็งแรงจากรากผมสู่ปลายผม
การขาดวิตามินบางชนิดอาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ หักง่าย หรือสีผมจางลง การเสริมวิตามินที่เหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของเส้นผม เพิ่มความยืดหยุ่น และทำให้ผมมีความเงางาม

6 วิตามินบํารุงผม ที่แนะนำ มีอะไรบ้าง?
1. วิตามินเอ (Vitamin A)
วิตามินเอเป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพผม โดยเฉพาะการช่วยผลิตน้ำมันธรรมชาติที่หนังศีรษะ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องปรับอากาศตามธรรมชาติ ช่วยให้หนังศีรษะและเส้นผมไม่แห้งเกินไป
นอกจากนี้ วิตามินเอยังช่วยป้องกันหนังศีรษะแห้ง คัน รังแค ซึ่งเป็นปัญหาที่มักนำไปสู่การขัดถูหนังศีรษะบ่อยครั้ง และอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือผมร่วงตามมา
2. วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)
กลุ่มวิตามินบีรวมถือเป็นวิตามินสำคัญที่สุดสำหรับผม โดยเฉพาะไบโอติน (Biotin หรือ B7) ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการช่วยลดผมร่วง การเสริมไบโอตินจะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างของเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรงและหักยาก
วิตามินบีรวมยังช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยส่งเสริมการแบ่งตัวของเซลล์ในรูขุมขน ทำให้ผมยาวเร็วขึ้นและมีความหนาแน่นมากขึ้น
3. วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะที่อาจเกิดจากมลภาวะ ความเครียด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การลดการอักเสบจะช่วยให้รูขุมขนทำงานได้ปกติ นอกจากนี้ วิตามินซียังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ทำให้ผมไม่ขาดง่าย
4. วิตามินดี (Vitamin D)
วิตามินดีมีความสำคัญในการช่วยการเจริญเติบโตของรูขุมขน การขาดวิตามินดีอาจทำให้รูขุมขนหยุดทำงานหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ การเสริมวิตามินดีจึงช่วยกระตุ้นให้รูขุมขนกลับมาทำงานใหม่
5. วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามินอีช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในหนังศีรษะ เมื่อการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น รูขุมขนจะได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
6. ซิงค์ (Zinc)
ซิงค์ หรือ สังกะสี แร่ธาตุสำคัญสำหรับเส้นผม เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างเคราติน ลดผมหลุดร่วง เพิ่มความชุ่มชื้นและเงางามให้เส้นผม พร้อมลดปัญหารังแคและหนังศีรษะอักเสบ

วิธีเลือกวิตามินบํารุงผมให้เหมาะกับตนเอง
1. พิจารณาจากสาเหตุของผมร่วง
การเลือกวิตามินบำรุงผมควรเริ่มจากการหาสาเหตุของปัญหาก่อน หากผมร่วงจากฮอร์โมน ควรเลือกวิตามินที่มีส่วนผสมของวิตามินดีและสังกะสี หากเกิดจากความเครียด ควรเน้นวิตามินบีรวมและแมกนีเซียม หากเกิดจากขาดสารอาหาร ควรเลือกวิตามินรวมที่มีส่วนผสมครบถ้วน
2. เลือกสูตรที่มีสารอาหารครบถ้วน
วิตามินบำรุงผมที่ดีควรมีส่วนผสมของแร่ธาตุ เช่น สังกะสี ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม และโฟเลท เพราะสารอาหารเหล่านี้ทำงานร่วมกับวิตามินในการบำรุงผม
ควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชกร แพทย์ หรือนักโภชนาการ เพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกใช้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและไม่เกิดผลข้างเคียง
วิตามินบํารุงผมควรใช้คู่กับอะไรถึงเห็นผลดี?
การบำรุงผมให้ได้ผลดีที่สุดต้องดูแลทั้งจากภายในและภายนอก การใช้ร่วมกับแชมพูหรือเซรั่มบำรุงผมที่มีส่วนผสมของวิตามินหรือสารสกัดจากธรรมชาติจะช่วยเสริมผลการรักษา
- ใช้ร่วมกับแชมพูหรือเซรั่มบํารุงผมที่มีสารสกัดธรรมชาติ
- ดูแลสุขภาพกายและใจควบคู่กัน ลดความเครียด ความเหนื่อยล้าของร่างกาย
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- นวดศีรษะสม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
หากวิตามินไม่ช่วย อาจถึงเวลาปรึกษาผู้ชำนาญการ
หากทานวิตามินบำรุงผมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3-6 เดือนแล้วยังไม่เห็นผล หรือผมร่วงผิดปกติเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
หากหนังศีรษะมีรอยแผล รังแคหนา มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีอาการคัน แสบร้อน อาจเป็นสัญญาณของโรคทางผิวหนังที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์
หรือสำหรับผู้ที่มีภาวะกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น โรคไทรอยด์ กรรมพันธุ์ผมร่วงแบบแอนโดรเจเนติก หรือ PCOS การใช้วิตามินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องได้รับการรักษาแบบเฉพาะทาง
BEQ Hair Center ตัวช่วยดูแลสุขภาพผมแบบครบวงจร
BEQ Hair Center คลินิกด้านการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ที่พร้อมให้บริการตรวจวิเคราะห์เส้นผมและหนังศีรษะด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผมร่วง ผมบาง
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะด้านพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการดูแลที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วิตามิน ผลิตภัณฑ์บำรุงผม หรือการรักษาเฉพาะทาง
สามารถติดต่อรับคำปรึกษาและนัดหมายได้ที่
โทรศัพท์: 094-441-4965Line: https://line.me/ti/p/@beq_haircenter
E-mail: Marketing@beqhaircenter.com
Google Map : คลิก
BEQ Hair Center ชั้น 3 อาคารซีพี ทาวเวอร์ (สีลม) , ถนนสีลม บางรัก , กรุงเทพมหานคร 10500
เวลาทำการ: จันทร์ – อาทิตย์ 10.00 – 19.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)