อย่ารอให้ผมหลุดร่วงแล้วค่อยเข้ามาปรึกษานะครับ หมอแนะนำให้ท่านที่เกรงว่าจะเริ่มมีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน-เถิก อยากให้รีบเข้ามาปรึกษาเพื่อป้องกันปัญหาก่อนล่วงหน้าได้เลยครับ แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลและบำรุงไม่สูงเท่ากับการแก้ปัญหาครับ ดังนั้นมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาให้เส้นผมเราอยู่ไปนาน ๆ นะครับ
Hair Laser
Hair Laser หรือ Low-Level Laser Therapy (LLLT) หรือแสงเลเซอร์ความถี่ต่ำ ที่มีความยาวคลื่นในช่วง 630-660 นาโนเมตร สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเป็นแสงสีแดง สามารถกระตุ้นให้เซลล์เกิดการสร้างพลังงานที่มากขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และสารอาหารที่มาหล่อเลี้ยงรากผมและหนังศีรษะ โดยการกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมและทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น เป็นหัตถการที่สามารถทำหลังปลูกผมได้ด้วยนะครับ เพราะว่าทำให้รากผมที่ได้ปลูกใหม่นั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ถึงแม้จะไม่ใช่หัตถการที่เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นการรักษาเสริมที่ดีและมีประสิทธิภาพครับ
Hair Revitalize
เป็นหัตถการสำหรับทำความสะอาดหนังศีรษะโดยเฉพาะ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าแค่การใช้แชมพูก็พอแล้ว แต่สำหรับท่านที่มีน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะมาก ๆ นั้น รู้หรือไม่ว่าน้ำมันเหล่านี้สามารถดักจับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไว้ และยังก่อให้เกิดรังแค และเกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ (Hair Follicles) นอกจากจะเกิดปัญหาบริเวณหนังศีรษะแล้ว ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วง ผมบาง และยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการทำ Hair Revitalize เพื่อกำจัดสิ่งที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนออกไปช่วยควบคุมความมันของหนังศีรษะ ลดการเกิดรังแค และช่วยให้เส้นผมงอกยาวได้อย่างปกติ
Hair Booster
เป็นการบำรุงให้สารอาหารไปยังเส้นผม ด้วยการสะกิดด้วยปลายเข็มเบา ๆ ให้ตัวยาเข้าสู่รากผมโดยตรง ช่วยให้เส้นผมมีการเจริญเติบโตที่ดียิ่งขึ้นภายหลังการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ เนื่องด้วยเป็นการบำรุงหลายท่านอาจจะงงว่า ต่างกับ Hair Laser อย่างไร ขอยกตัวอย่างง่ายๆ เลเซอร์เป็นการกระตุ้นให้ลำเลียงอาหารได้ดีขึ้น ดังนั้นหากขาดสารอาหารที่จำเป็นก็จะเห็นผลน้อยลง แต่ Hair Booster นั้นเป็นการเติมสารอาหารโดยตรง
Anti DHT Injection
ความไวต่อฮอร์โมน Dihydrotestosterone หรือ DHT เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาหัวล้านหัวเถิก การฉีดตัว Anti DHT ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ เข้าไปในหนังศีรษะ จะช่วยไปลดการทำงานของฮอร์โมน DHT ต่อรากผมลงได้ เปรียบเสมือนการไปยับยั้งที่ต้นเหตุของการเกิดผมร่วงที่แท้จริง จะช่วยให้เส้นผมบริเวณที่ถูกฉีดไปนั้นมีการหลุดร่วงน้อยลง และเส้นผมมีขนาดที่โตขึ้นได้อีกด้วย โดยควรฉีดทุก 1-2 สัปดาห์ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ร่วมกับยากลุ่ม Finasteride ได้อีกด้วย
PRP หรือ Platelet-Rich Plasma
PRP หรือ Platelet-Rich Plasma ขั้นตอนของการทำ PRP คือการรักษาทางอ้อมประเภทหนึ่ง ไม่ใช่การรักษาเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง หลักการง่าย ๆ ของ PRP ก็คือการกระตุ้นกลไกลการฟื้นฟูตัวเองของร่างกายเรานั่นเองครับ และสิ่งที่ใช้ในการส่งสัญญาณให้เกิดการซ่อมแซมร่างกายนั้นเราเรียกว่า “Growth Factor”
Protein Hair Cell Activator
เป็นการฉีดสารโปรตีนต่าง ๆ มากกว่า 15 ชนิดที่สกัดเตรียมมาอย่างเข้มข้นเข้าไปบนหนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมบาง วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้เส้นผมมีการเจริญงอกยาวมากขึ้น เส้นรอบวงมีขนาดที่โตสมบูรณ์ขึ้น และมีระยะการงอกของเส้นผมที่ยาวนานขึ้น ทำให้เส้นผมมีการหลุดร่วงที่น้อยลง เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่สามารถทำ PRP ได้ครับ