จริงหรือไม่ มีเชื้อ HIV ปลูกผมได้ ! 

ติดเชื้อ HIV ปลูกผมได้ไหม เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย คนที่ติดเชื้อไวรัส HIV หากอยากปลูกผม เพื่อแก้ปัญหาผมบาง หนังศีรษะล้าน-เถิก จะสามารถทำได้หรือไม่ ปลูกผมไปแล้วจะปลอดภัยหรือเปล่า ในประเทศไทยมีบริการที่ไหนที่วางใจได้ และมีมาตรฐานจริง ๆ บทความนี้มีคำตอบ พร้อมข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ ก่อนตัดสินใจ 

ทำความรู้จัก เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) แบบเข้าใจง่าย

HIV หรือชื่อเต็มว่า Human Immunodeficiency Virus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไปทำลาย “ระบบภูมิคุ้มกัน” ของเราอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวชนิด CD4 ที่มีหน้าที่ คือ “ต่อสู้กับเชื้อโรค” นั่นเอง ถ้าเปรียบร่างกายเราเหมือนประเทศ ระบบภูมิคุ้มกันก็คือ “ทหาร” ที่คอยจัดการผู้ที่บุกรุก (เชื้อโรค) ไม่ให้เข้ามา แต่ทหารที่มีถูกจัดการลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดก็จะไม่มีใครคอยป้องกันผู้บุกรุกจากภายนอก นั่นก็คือเชื้อโรคที่เมื่อก่อนเข้ามาไม่ได้ ก็เข้ามาทำอันตรายเราได้ง่ายขึ้น

ที่สำคัญยังมีหลายคนเข้าใจผิดอยู่ระหว่าง HIV (เอชไอวี) กับ AIDS (เอดส์) ไม่ใช่ชื่อเดียวกัน HIV คือ “เชื้อไวรัส” ส่วน AIDS คือ
“สภาวะของร่างกาย”

พูดง่าย ๆ ก็คือ HIV เป็นไวรัสที่อยู่ในร่างกาย ถ้าไม่รักษา ดูแลสุขภาพดี ๆ  ไม่ทานยาอย่างต่อเนื่อง ปล่อยให้เชื้อทำลายภูมิคุ้มกันไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนแอมากจนไม่สามารถสู้กับเชื้อโรคอื่นได้ พอถึงจุดนั้น จะเรียกว่า “ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์” (AIDS; Acquired Immunodeficiency Syndrome) แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ติดเชื้อ HIV (เอชไอวี) แล้วจะเป็นโรคเอดส์ คนที่รู้ตัวเร็ว และเริ่มรักษาโดยการ กินยาต้านไวรัส (ยากลุ่ม ARV) ตั้งแต่ระยะต้น จะสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ และไม่พัฒนาไปสู่ระยะเป็นเอดส์

การติดเชื้อ สามารถเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสเลือด สารคัดหลั่ง หรือของเหลวในร่างกายของผู้ติดเชื้อ เช่น 

  1. การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
    ไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกัน หากไม่ป้องกัน เช่น การถุงยางอนามัย ก็มีโอกาสติดเชื้อได้
  2. การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
    เช่น ในกลุ่มคนใช้สารเสพติดชนิดฉีด
  3. แม่ถ่ายทอดสู่ลูก
    ทั้งขณะตั้งครรภ์ คลอด และการให้นมลูก หากแม่ไม่ได้รับยาต้านไวรัส

วิธีป้องกันการติดเชื้อ HIV

การติดเชื้อ HIV สามารถป้องกันได้ ถ้าเรารู้วิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้

1. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
นี่คือวิธีเบสิกที่สุด และได้ผลดีมาก ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันได้ทั้ง HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น หนองใน ซิฟิลิส เริม
❗ไม่ว่าจะเป็นเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกัน ก็แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยเสมอ

2. หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
HIV สามารถแพร่ผ่านเลือดได้โดยตรง ดังนั้น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน (เช่น ในกลุ่มใช้ยาเสพติด) ถือว่าเสี่ยงมาก
❗ถ้าจำเป็นต้องฉีดยา เช่น ฉีดอินซูลิน หรือวิตามิน ควรใช้ เข็มใหม่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว และไม่ใช้ซ้ำกับใคร

3. ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
การมีคู่นอนหลายคนจะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ HIV และโรคอื่น ๆ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช้ถุงยางอนามัยเป็นประจำ
❗ถ้ามีความจำเป็น ให้ใช้ถุงยางทุกครั้ง และตรวจเลือดสม่ำเสมอ

4. ป้องกันล่วงหน้าด้วย “เพร็พ” (PrEP)
PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) คือ “ยาต้านไวรัสที่กินก่อนสัมผัสเชื้อ”
เหมาะสำหรับคนที่มีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนติดเชื้อ HIV มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันบ่อย ทำงานในสายอาชีพที่อาจสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่ง PrEP จะช่วยให้ร่างกายมี “เกราะ” ป้องกันเชื้อ HIV ไม่ให้ฝังตัวในร่างกาย
❗ต้องกินยาทุกวัน และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

5. กรณีฉุกเฉิน – ใช้ “เป็ป” (PEP)
PEP (Post-Exposure Prophylaxis) คือ “ยาต้าน HIV ที่กินหลังจากเสี่ยงสัมผัสเชื้อ” เช่น เผลอมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ถุงยางหลุดหรือรั่ว ถูกเข็มตำจากอุปกรณ์ที่มีเลือดปน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
❗ต้องกิน ภายใน 72 ชั่วโมง ยิ่งเร็ว ยิ่งดี และต้องกินติดต่อกัน 28 วัน พร้อมติดตามอาการกับแพทย์

“หมายความว่าคนที่ติดเชื้อ HIV ปลูกผมได้ไหม หรือไม่ได้ก็จะต้องดูที่ความแข็งแรงของร่างกายด้วยนะ
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนติดเชื้อ HIV ต้องเจ็บป่วยเสมอไป”


ปลูกผม HIV มีข้อจำกัดอะไรบ้าง


คนที่ติดเชื้อ HIV ปลูกผมได้ไหม ทำได้ แต่จะต้องมีข้อควรระวัง เพื่อความปลอดภัยที่สุดของคนไข้ และบุคลากรทางการแพทย์ มาดูกันว่า
ปลูกผม HIV มีข้อจำกัดอะไรบ้างนะ

  • ต้องควบคุมไหลของเลือด ใช้เวลาในการปลูกผมให้สั้นที่สุด เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ 
  • ใช้อุปกรณ์หัวเจาะพิเศษขนาดเล็กที่สุด มีความคม และความบางเป็นพิเศษ เพื่อสร้างบาดแผลเท่าที่จำเป็น ให้แผลหายไวที่สุด 
  • การใช้น้ำยาคงสภาพกราฟต์พิเศษ ช่วยยืดอายุกราฟต์ผมที่อยู่นอกร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงของเซลล์รากผม ทำให้อัตราการอยู่รอดของกราฟต์ผมมีมากขึ้น
  • ต้องปลูกผมด้วยอุปกรณ์ชุดใหม่เท่านั้น
  • ยาที่ทานหลังปลูกผม ต้องมีความเฉพาะเจาะจง

จะเริ่มปลูกผม ต้องเตรียมตัวอย่างไร


การปลูกผม เป็นการทำศัลยกรรมอย่างหนึ่ง คนที่ติดเชื้อ HIV ทำศัลยกรรมได้ไหม คำตอบคือ ทำได้! ถ้าร่างกายพร้อม การปลูกผมแม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัด แต่ก็มีแผลเล็ก ๆ จำนวนมากบนหนังศีรษะ หากร่างกายยังไม่พร้อม โดยเฉพาะคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังทำได้ ดังนั้น คนที่ติดเชื้อ HIV ที่ต้องการปลูกผมควรมีการตรวจร่างกายก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะ การตรวจเลือด 2 ตัวสำคัญนี้ 

  1. CD4 Count – ตัววัดภูมิคุ้มกัน
    CD4 เป็นเม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ช่วยป้องกันร่างกายจากเชื้อโรคต่าง ๆ โดยไวรัส HIV จะค่อย ๆ ทำลายเซลล์เหล่านี้ ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
    การตรวจ CD4 จะช่วยบอกว่า ร่างกายของเรายังสู้เชื้อโรคไหวแค่ไหน
    – ค่า CD4 ที่ ยิ่งมาก แสดงว่าระบบภูมิคุ้มกันยังดี
    – โดยทั่วไปควรมี CD4 อย่างน้อย 350–500 ขึ้นไป ก่อนเข้ารับการปลูกผม
  2. Viral Load (VL) – ตัววัดปริมาณเชื้อในเลือด เป็นการวัดว่า ในเลือดยังมีไวรัส HIV มากแค่ไหน
    – ยิ่งค่า VL น้อย ยิ่งดี
    – หากสามารถลดระดับเชื้อได้จน “ตรวจไม่เจอ” (เรียกว่า Undetectable) จะปลอดภัยมากขึ้น
    Undetectable = มีเชื้อน้อยกว่า 20 ตัว ต่อเลือด 1 ซีซี 

ทำไมต้องตรวจ 2 ค่านี้ก่อนปลูกผม ก็เพื่อให้มั่นใจว่า ร่างกายพร้อมรับการรักษา
และสามารถสมานแผลได้ดี ลดความเสี่ยง ติดเชื้อหลังทำ ซึ่งอาจรุนแรงในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
แพทย์สามารถวางแผนการดูแลเฉพาะบุคคลได้แม่นยำขึ้น

ปลูกผมสำหรับคนที่ติดเชื้อ HIV เลือกแบบไหน ปลอดภัยหายห่วง


คลินิกรับปลูกผม HIV มีน้อยมาก บางที่ก็ไม่รับปลูกผมเคสที่เป็นผู้ติดเชื้อ HIV เพราะไม่อยากรับความเสี่ยงต่อคนไข้ หรือบุคลากรทางการแพทย์ เอาเป็นว่าถ้าจะต้องเลือก ควรเลือกสิ่งที่ดี สิ่งที่ใช่สำหรับเราที่สุดในการแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน-เถิก 

  • เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จริงในการปลูกผมคนไข้ติดเชื้อ HIV และเข้าใจผู้ป่วย HIV
  • เลือกคลินิกที่มีระบบปลอดเชื้อครบถ้วน
  • เลือกเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา
  • มีกระบวนการตรวจเลือดก่อนทำอย่างชัดเจน และอธิบายทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
  • เลือกการบริการดูแลหลังปลูกผมอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำปรึกษาได้ตลอด


สรุปแล้วคนที่ติดเชื้อ HIV ปลูกผมได้ไหม ได้แน่นอน หากมีการปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะเคสที่มีความเฉพาะเจาะจง ต้องใช้ประสบการณ์ของทีมแพทย์ ประกอบกับเทคโนโลยีขั้นสูงในการดูแลรักษาอย่างดี ฉะนั้นถ้าคุณกำลังมีปัญหา ผมบาง ศีรษะล้าน-เถิก ซึ่งเป็นได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย ก็สามารถมาปรึกษากับคุณหมอที่ BEQ Hair Center ได้เลย เรามีเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า DHIv ที่เป็นเทคนิคการปลูกผมเฉพาะสำหรับคนที่ติดเชื้อ HIV เทคนิค DHIv (ดีเฮดไอวี) ที่พัฒนาโดย BEQ Hair Center และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ

หัวเจาะกราฟต์ผมพิเศษ
แผลที่เกิดจากการปลูกผมมีนับพันจุด เพื่อลดบาดแผลและเลือดที่เสียจึงต้องใช้หัวเจาะพิเศษขนาดเล็ก
– เล็กกว่าหัวเจาะ DHI ทั่วไปร้อยละ 30
– เล็กกว่าหัวเจาะ FUE ทั่วไปถึง 1 เท่าตัว
– บาง คม และมีแรงเสียดทานต่ำ
– ปรับขนาดเฉพาะตามกราฟต์ผมแต่ละคน

น้ำยาคงสภาพกราฟต์พิเศษ
กราฟต์ผมที่นำออกจากร่างกายต้องมีชีวิตไปจนถึงตอนปลูก จึงต้องใช้น้ำยาเก็บรักษากราฟต์สูตรพิเศษ
– เข้มข้นกว่าสูตรปกติ 40%
– เพิ่มความแข็งแรงของรากผม

ปลูกผมด้วยอุปกรณ์ใหม่
มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นอุปกรณ์ใหม่สำหรับเคสคนไข้แต่ละคน

ใช้สารละลายสูตรเฉพาะของ BEQ Hair Center
ในขั้นตอนสุดท้ายการนำไปปลูก ต้องรักษาสภาพกราฟต์ผมให้มีชีวิตเสมือนยังอยู่ในร่างกายคนไข้ เพิ่มโอกาสรอดของกราฟต์ผม

ยาต่างๆ สำหรับคนไข้ที่ต้องปลูกผมด้วยเทคนิคนี้โดยเฉพาะ

น้ำยาสมานแผลสูตรพิเศษ
ช่วยสมานแผลไวขึ้น กระตุ้นเซลล์ให้รักษาตัวเอง เหมาะกับคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังจากปลูกผมแล้วเป็นอย่างมาก

“คนทั่วไป หรือคนที่ติดเชื้อ HIV มีปัญหาเดียวกันคือ
ได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT สาเหตุที่ทำให้ผมบาง ศีรษะล้าน-เถิก
สามารถแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ออกแบบการรักษาพิเศษเฉพาะคุณเท่านั้น
พร้อมมาตรฐานระดับสากล ต้องที่นี่ BEQ Hair Center

📞 ปรึกษาฟรีกับแพทย์ผู้ชำนาญการที่ BEQ Hair Center
➡️ จองคิวปรึกษาได้เลย
📍 BEQ Hair Center | ปลูกผมอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย และเข้าใจคุณ

Share the Post:

Related Posts

นายแพทย์ดนัย ธรรมภิบาล

Education

  • แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (Doctor of Medicine, Prince of Songkhla University)
  • วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (Master of Science in Anti – Aging and Regenerative Medicine, School of Anti-Aging and Regenerative Medicine, Mae Fah Luang University)

Certification

  • Certified American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS)
  • Certified International Board of Hair Restoration Surgery (IBHRS)
  • Certified American Board in Anti-Aging Medicine (A4M)
  • Certified in Clinical Nutrition Wellness (CNW), American Naturopathic
  • Certification Board (ANCB)
  • Certified in Chelation Therapy, Chelation Medical Association Thai (CMAT)
  • Certified in Anti-Aging Exercise and Wellness Medicine, Mae Fah Luang University)
  • Certified in Hair Transplant Program, Thai Global Health Center Bangkok
  • Certified in the Asian Association of Hair Restoration Surgeons (AAHRS)
  • Certified in The European Organization of Hair Restoration Professionals (FUE Europe)
  • Member of The World FUE Institute
  • Associate member in International Society of Hair restoration Surgery (ISHRS)
  • Key opinion leader (KOL) in Asia for NeoGraft® by Venus Concept USA
  • Lecturer in PAVICON MEDINESS ACADEMY (Hair Transplant Training Academy)
  • Speaker in “Lion-Hair Implanter One-Step Hair Restoration System Workshop” by Hans Biomed (2020)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์

    ซึ่งเป็นคุกกี้ประเภทที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนเว็บไซต์เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ภาษา ฟ้อนต์และรูปแบบการนำเสนอ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้นตามการตั้งค่าที่เลือกไว้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save