ปลูกผมแบบไหนดี? การมีเส้นผมที่ดกหนาและสุขภาพดี ไม่เพียงช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเข้าสังคม หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน และหากคุณกำลังเผชิญปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน การปลูกผมอาจเป็นทางออกที่เห็นผลชัดเจนและยั่งยืน มาดูกันว่าการปลูกผม มีกี่เทคนิค และเทคโนโลยีใดบ้างที่สามารถ “ปลุกผม” ให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง
เหตุผลที่ต้องปลูกผม?
ผมบางหรือศีรษะล้านเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ การปลูกผมจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูบุคลิกภาพและเสริมสร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
เทคนิคปลูกผมที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบัน
การปลูกผม คือการนำเซลล์รากผม ย้ายจากจุดที่มีความหนาแน่น มีความแข็งแรง ไปปลูกในบริเวณที่เซลล์รากผมไม่ทำงานอีกต่อไป และในปัจจุบันมี 2 เทคนิคหลัก ที่ได้รับการยอมรับ
ปลูกผมด้วยเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction)
- เจ็บน้อย ไม่ต้องผ่าตัด : เทคนิค FUE เป็นวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นการเก็บหน่วยรากผม (Follicular Unit) ทีละหน่วยโดยตรงจากบริเวณ Donor Area โดยใช้เครื่องมือขนาดเล็กพิเศษ ทำให้ไม่ต้องมีการตัดแผลขนาดใหญ่ ขั้นตอนนี้จะอยู่ภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้ผู้รับการรักษาแทบไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างกระบวนการ
- ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน : ข้อดีอีกอย่างของเทคนิค FUE คือระยะเวลาฟื้นตัวที่สั้น ผู้รับการรักษาส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ภายใน 1-2 วัน บริเวณ Donor Area จะมีเพียงรอยแผลเป็นขนาดเล็กมาก และจะหายสนิทภายในไม่กี่วัน การใช้ชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมดสามารถทำได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ปลูกผมด้วยเทคนิค FUT (Follicular Unit Transplantation)
- ตัดหนังศีรษะส่วนหนึ่งเพื่อนำกราฟต์ผมมาใช้ : เทคนิค FUT เป็นวิธีการปลูกผมที่แพทย์จะตัดแถบหนังศีรษะแคบๆ (Strip) จากบริเวณด้านหลังศีรษะ จากนั้นจะนำแถบหนังศีรษะนี้มาแยกเป็นหน่วยรากผม (Follicular Unit) ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ แต่ละหน่วยอาจประกอบด้วยเส้นผม 1-4 เส้น ก่อนที่จะนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ หลังจากตัดแถบหนังศีรษะออกแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผลด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้แผลเป็นที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กที่สุด
- อาจมีแผลเป็นหลังการผ่าตัด : ข้อเสียหลักของเทคนิค FUT คือการเกิดแผลเป็นเส้นตรงบริเวณด้านหลังศีรษะ แม้ว่าเทคนิคการเย็บแผลสมัยใหม่จะช่วยให้แผลเป็นบางลงมาก แต่ก็ยังคงมองเห็นได้หากตัดผมสั้นมากๆ ดังนั้น เทคนิคนี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบไว้ผมสั้นมากหรือโกนผม นอกจากนี้ ระยะเวลาการฟื้นตัวของเทคนิค FUT จะนานกว่า FUE ผู้รับการรักษาอาจต้องใช้เวลาพักฟื้น 10-14 วัน และอาจรู้สึกไม่สบายบริเวณแผลผ่าตัดในช่วงแรก

DHI อีกหนึ่งเทคนิคปลูกผมที่ BEQ Hair Center เลือกใช้
DHI คือเทคนิคการปลูกผมที่มีหลักการคล้ายคลึงกับ FUE แต่ความต่างคือการที่แพทย์จะใช้ DHI Implanter ในการเจาะและปักกราฟต์ผมลงบนหนังศีรษะบริเวณที่ต้องการในขั้นตอนเดียวหลังจากทำการแยกกราฟต์ผมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเทคนิคนี้มากลบจุดด้อยของ FUE ที่แต่เดิม ต้องทำการเจาะรูหนังศีรษะด้วยเข็ม และคีบกราฟต์เส้นผมปักลงในรูที่ละขั้นตอน ที่ต้องใช้เวลามาก และควบคุมทิศทางของแนวเส้นผมได้ยาก
เทคนิคอื่นๆ ที่ใช้ “ปลุก” ผม
ในส่วนนี้จะเป็นคนละกรณีกับการปลูกผม เพราะการ ปลุกผม คือการกระตุ้นเซลล์รากผมที่ยัง “ใช้การได้” แต่อาจจะไม่เต็มที่ เนื่องจากปัจจจัยต่างๆ ดังนั้นจึงมีนวัตกรรมที่เข้ามาเสริมสร้างการทำงานของเซลล์รากผม ให้แข็งแรงและกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยี เครื่องมือต่างๆ
Hair Laser Program
เป็นการรักษาโดยหลักการกระตุ้นเซลล์รากผม โดยใช้ Low-Level Laser Therapy (LLLT) ร่วมกับ Light-Emitting Diode (LED) เพื่อประสิทธิภาพของการรักษาสูงสุด
Low-Level Laser Therapy (LLLT) เป็นเลเซอร์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง หลักๆ จะใช้แสงสีแดง ความยาวคลื่น (600-700 nm) ส่วน Light-Emitting Diode (LED) เป็นแสงอีกชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมเช่นกัน
ผลที่ได้จากการรักษาด้วย Hair Laser Program จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ลดปัญหาผมร่วงในขณะเดียวกันด้วย ซึ่งจะทำให้ผมที่บางดูค่อยๆ หนาขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อให้เส้นผม และหนังศีรษะมีสุขภาพดี กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม กรณีเกิดการบาดเจ็บที่เหนังศีรษะ หรือรากผม ลดความมันของหนังศีรษะ โดยลดการหลั่งไขมันของต่อมไขมัน กระตุ้นกระบวนการภายในเซลล์รากผม และลดการอักเสบ
LPG®
LOUIS-PAUL GUITAY (LPG®) เป็นเทคโนโลยีเฉพาะ ที่พัฒนามาเพื่อผสมผสานการดึงเนื้อเยื่อแบบสุญญากาศ และการนวดเชิงกล เพื่อกระตุ้นหนังศีรษะ และรากผม ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังเนื้อเยื่อ ทำให้ออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ส่งตรงถึงหนังศีรษะ และรากผมมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดกระบวนการฟื้นฟู และการเจริญเติบโตของเส้นผมที่แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกเหนือจากคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ LPG® ยังสามารถใช้ในการลด และป้องกันการบวมหลังการปลูกผมได้
จุดเด่นของเทคโนโลยี LPG® คือการที่คนไข้ไม่ต้องเจ็บจากการฉีด ไม่มีการทำให้เกิดบาดแผล หรือการใช้สารเคมีใดๆ จึงนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
Cell Therapy
iStemZ
iStemZ by Rigenera Activa AMT เป็นเทคโนโลยีจากสเปน ที่สามารถสกัดเซลล์ และสารต่างๆ (Progenitor Cells and Growth Factors) ออกมาจากเซลล์รากผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะไปกระตุ้นการซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์รากผมที่ฝ่อตัวลงให้กลับมามีความแอคทีฟอีกครั้ง การรักษาด้วยวิธีนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง และภายหลังการรักษาก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติในทันที วิธีการรักษานี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางในระยะเริ่มต้น และพื้นที่ปัญหาไม่กว้างมากนัก
ReCell® Hair Micro Transplant
การรักษาด้วย ReCell® ใช้หลักการของเซลล์ต้นกำเนิดเช่นเดียวกันกับ iStemZ by Rigenera Activa AMT แต่ด้วยเทคโนโลยีที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ReCell® สามารถให้สารสกัดที่มีความเข้มข้มที่มากกว่า และได้ออกมาในปริมาณที่สามารถให้การรักษาที่ครอบคลุมพื้นที่ปัญหาได้กว้างออกไปมากขึ้น ใช้เวลาในการรักษาสั้น และสามารถใช้ชีวิตหลังการรักษาได้ตามปกติในทันทีเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางในระยะเริ่มต้นถึงกลาง หรือพื้นที่ปัญหาเริ่มกว้างมากขึ้น
Exocell
Exocell ที่ BEQ Hair Center นั้น เป็นการดัดแปลงการรักษาด้วยเอ็กโซโซมให้มีความจำเพาะเจาะจงกับเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะ ด้วยการคัดเลือกเฉพาะสารที่มีผลโดยตรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะเท่านั้น เพื่อใช้ในการบำรุงบริเวณที่เซลล์รากผมไม่แข็งแรง กระตุ้นให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีอื่นๆ
Plasma Hair PRP
Plasma Hair PRP เป็นการรักษาด้วยศาสตร์ Regenerative Medicine ที่อาศัยสิ่งต่างๆ ภายในเลือดของเราเองมาใช้ในการรักษา โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า Growth Factors ที่มีอยู่ภายในเกล็ดเลือด ที่มีความสามารถในการกระตุ้นการฟื้นฟูต่างๆ ได้ Growth Factors ภายในเกล็ดเลือดจะกระตุ้น และฟื้นฟูรากผมในระยะพัก ให้เข้าสู่ระยะการงอกยาวเร็วขึ้น และยังช่วยยืดให้ระยะการงอกยาวนาน และเส้นผมแข็งแรงขึ้นด้วย เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นการใช้เลือดของคนคนนั้นเอง
TGFx BETA
TGFx Beta เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะลดระดับความเข้มข้นของสาร TGFx Beta ที่ส่งผลให้ผมร่วง ในภาวะผมร่วงจากกรรมพันธ์ุ ร่วมกับการรักษาโดยวิธีอื่น เช่น Plasma Hair PRP, MG Hair Nourishment เพื่อการดูแลปัญหาของเส้นผมได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ เพื่อช่วยปลุกการทำงานของเซลล์รากผมให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://beqclinic.com/hair-wellness/
สรุป
การปลูกผมไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีให้เลือกหลากหลายตามสภาพปัญหาของแต่ละคน หรือสำหรับผู้ที่สูญเสียเส้นผมไปแล้ว ก็สามารถใช้เทคนิคการกระตุ้นรากผมที่ยังมีอยู่ให้กลับมาแข็งแรง สำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาผมบาง ผมร่วง หรือศีรษะล้าน การเข้ารับคำปรึกษากับผู้ชำนาญการเฉพาะทางคือสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมและเห็นผลอย่างยั่งยืน